สับสนระหว่างวีลแชร์แบบทั่วไปและไฟฟ้า? บทความนี้เปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย และความแตกต่าง เพื่อช่วยคุณตัดสินใจเลือกวีลแชร์ที่เหมาะสม
การเลือกวีลแชร์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อคุณภาพชีวิตของผู้ใช้งาน วีลแชร์ที่ไม่เหมาะสมอาจก่อให้เกิดความไม่สะดวกสบาย ปัญหาด้านสุขภาพ หรือแม้แต่อันตรายได้ ปัจจุบันมีวีลแชร์หลากหลายประเภทในท้องตลาด ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับประเภทของวีลแชร์ต่างๆ พร้อมเกณฑ์การเลือกใช้อย่างละเอียด เพื่อให้คุณสามารถเลือกวีลแชร์ที่เหมาะสมที่สุด
เกณฑ์ในการแบ่งประเภทวีลแชร์ : วีลแชร์สามารถแบ่งประเภทได้ตามลักษณะการใช้งาน วัสดุที่ใช้ผลิต และคุณสมบัติพิเศษ

วีลแชร์แบบทั่วไป (Manual Wheelchair)
วีลแชร์แบบทั่วไป หรือที่เรียกว่าวีลแชร์แบบแมนนวล เป็นวีลแชร์ที่ผู้ใช้งานต้องใช้แรงผลักวงล้อด้วยตนเอง หรือมีผู้ดูแลช่วยเข็น
- ลักษณะ : มีโครงสร้างเรียบง่าย ประกอบด้วยล้อขนาดใหญ่สองล้อและล้อเล็กด้านหน้าสองล้อ มีที่นั่งและพนักพิง
- ข้อดี : ราคาค่อนข้างถูก น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายและพกพาสะดวก ดูแลรักษาง่าย
- ข้อเสีย : ต้องใช้แรงในการขับเคลื่อน ทำให้ผู้ที่ไม่มีกำลังแขนหรือไม่สามารถใช้แขนได้ไม่สะดวก
- ประเภท : แบ่งตามขนาดล้อ เช่น วีลแชร์ล้อเล็ก เหมาะสำหรับใช้ในพื้นที่แคบ และวีลแชร์ล้อใหญ่ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการขับเคลื่อนด้วยตนเองในระยะทางไกล
- เหมาะสำหรับ : ผู้ที่มีกำลังแขนดี ผู้ที่ต้องการวีลแชร์ราคาประหยัด หรือผู้ที่ต้องการออกกำลังกายแขน
- ตัวอย่างและราคา : วีลแชร์โครงเหล็กทั่วไป ราคาเริ่มต้นประมาณ 2,000-5,000 บาท วีลแชร์โครงอลูมิเนียม ราคาเริ่มต้นประมาณ 5,000-15,000 บาท

วีลแชร์ไฟฟ้า (Electric Wheelchair/Power Wheelchair)
วีลแชร์ไฟฟ้าใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน ควบคุมด้วยจอยสติ๊กหรือแผงควบคุม
- ลักษณะ : มีมอเตอร์และแบตเตอรี่ในการขับเคลื่อน มีระบบควบคุมทิศทางและความเร็ว
- ข้อดี : สะดวกสบาย ไม่ต้องใช้แรงในการขับเคลื่อน เหมาะสำหรับการเดินทางระยะไกล
- ข้อเสีย : ราคาสูงกว่าวีลแชร์แบบทั่วไป น้ำหนักมาก เคลื่อนย้ายลำบากกว่า ต้องดูแลแบตเตอรี่
- ประเภท : แบ่งตามระบบขับเคลื่อน เช่น แบบขับเคลื่อนล้อหน้า (Front-Wheel Drive) , แบบขับเคลื่อนล้อหลัง (Rear-Wheel Drive) และแบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (Mid-Wheel Drive) ซึ่งแต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันในเรื่องความคล่องตัวและการควบคุม
- เหมาะสำหรับ : ผู้ที่ไม่มีกำลังแขน ผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทาง ผู้ป่วยติดเตียงที่ต้องการเคลื่อนย้ายตัวเอง
- ตัวอย่างและราคา : วีลแชร์ไฟฟ้าแบบพื้นฐาน ราคาเริ่มต้นประมาณ 20,000-50,000 บาท วีลแชร์ไฟฟ้าที่มีฟังก์ชันพิเศษ เช่น ปรับเอนได้ ยกสูงได้ ราคาเริ่มต้นประมาณ 50,000-200,000 บาท
- ปัจจัยที่มีผลต่อราคา : ประเภทมอเตอร์ (เช่น มอเตอร์แบบ Brush หรือ Brushless) , ความจุแบตเตอรี่ , วัสดุโครงสร้าง , ฟังก์ชันพิเศษ เช่น ระบบควบคุมด้วยเสียง ระบบ GPS
ตารางเปรียบเทียบ วีลแชร์แบบทั่วไป VS วีลแชร์ไฟฟ้า
คุณสมบัติ | วีลแชร์แบบทั่วไป (Manual Wheelchair) | วีลแชร์ไฟฟ้า (Electric Wheelchair) |
การขับเคลื่อน | ใช้แรงคนในการผลักวงล้อ หรือมีผู้ดูแลช่วยเข็น | ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ควบคุมด้วยจอยสติ๊กหรือแผงควบคุม |
ราคา | โดยทั่วไปราคาถูกกว่า | โดยทั่วไปราคาสูงกว่า |
น้ำหนัก | น้ำหนักเบากว่า เคลื่อนย้ายและพกพาสะดวกกว่า | น้ำหนักมากกว่า เคลื่อนย้ายและพกพาค่อนข้างลำบาก |
ความคล่องตัว | คล่องตัวในพื้นที่แคบได้ดีกว่า โดยเฉพาะรุ่นล้อเล็ก | ความคล่องตัวขึ้นอยู่กับระบบขับเคลื่อน (ล้อหน้า ล้อหลัง หรือกลาง) บางรุ่นอาจไม่เหมาะกับพื้นที่แคบมากนัก |
ความสะดวกสบาย | ต้องใช้แรงในการขับเคลื่อน อาจทำให้เมื่อยล้าหากใช้งานเป็นเวลานาน | สะดวกสบาย ไม่ต้องใช้แรงในการขับเคลื่อน เหมาะสำหรับการเดินทางระยะไกล |
การดูแลรักษา | ดูแลรักษาง่าย ตรวจสอบลมยาง (ถ้ามี) และความสะอาด | ต้องดูแลแบตเตอรี่ ระบบไฟฟ้า และส่วนประกอบอื่นๆ อย่างสม่ำเสมอ |
ความเหมาะสม | ผู้ที่มีกำลังแขนดี ผู้ที่ต้องการวีลแชร์ราคาประหยัด ผู้ที่ต้องการออกกำลังกายแขน ผู้ที่ใช้งานในระยะทางไม่ไกลนัก ผู้ที่ต้องการความคล่องตัวในพื้นที่แคบ | ผู้ที่ไม่มีกำลังแขน ผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายในการเดินทางระยะไกล ผู้ป่วยติดเตียงที่ต้องการเคลื่อนย้ายตัวเอง ผู้ที่ต้องการเดินทางในพื้นที่ขรุขระ (บางรุ่น) ผู้ที่ต้องการฟังก์ชันพิเศษ เช่น ปรับเอนได้ ยกสูงได้ |
ข้อควรพิจารณาพิเศษ | ควรเลือกขนาดที่เหมาะสมกับสรีระผู้ใช้งาน เพื่อความสบายและป้องกันการบาดเจ็บจากการใช้งานในระยะยาว การเลือกใช้วีลแชร์ที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม เช่น พื้นผิวที่ใช้เดินทาง ก็มีความสำคัญเช่นกัน | ควรพิจารณาประเภทของระบบขับเคลื่อน ความจุของแบตเตอรี่ ฟังก์ชันพิเศษต่างๆ และบริการหลังการขาย ควรเลือกซื้อจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือและมีบริการซ่อมบำรุง |
เลือกวีลแชร์แบบไหนดี?
การเลือกวีลแชร์ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ดังนี้
- สภาพร่างกายและความสามารถของผู้ใช้งาน : ผู้ที่มีกำลังแขนดีและต้องการออกกำลังกาย อาจเลือกวีลแชร์แบบทั่วไป ผู้ที่ไม่มีกำลังแขนหรือต้องการความสะดวกสบายในการเดินทางระยะไกล ควรเลือกวีลแชร์ไฟฟ้า
- สภาพแวดล้อมและลักษณะการใช้งาน : หากใช้งานในพื้นที่แคบหรือต้องการพกพาบ่อยๆ วีลแชร์แบบทั่วไปหรือวีลแชร์พับได้น้ำหนักเบาอาจเหมาะสมกว่า หากใช้งานในพื้นที่ขรุขระหรือต้องการเดินทางระยะไกล วีลแชร์ไฟฟ้าที่มีระบบช่วงล่างที่ดีอาจเหมาะสมกว่า
- งบประมาณ : วีลแชร์แบบทั่วไปมีราคาถูกกว่าวีลแชร์ไฟฟ้า ควรพิจารณางบประมาณที่มีและเลือกวีลแชร์ที่ตอบโจทย์ความต้องการในราคาที่เหมาะสม
- ความต้องการพิเศษ : หากต้องการคุณสมบัติพิเศษ เช่น ปรับเอนได้ ยกสูงได้ หรือมีระบบควบคุมพิเศษ ควรเลือกวีลแชร์ไฟฟ้าที่มีฟังก์ชันดังกล่าว
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ควรทราบ
- การปรับแต่งวีลแชร์ (Wheelchair Customization) : วีลแชร์บางรุ่นสามารถปรับแต่งให้เข้ากับสรีระและความต้องการของผู้ใช้งานได้ เช่น การปรับความสูงของที่นั่ง ที่พักแขน และที่พักเท้า การปรับแต่งเหล่านี้ช่วยเพิ่มความสบายและป้องกันการบาดเจ็บจากการใช้งานในระยะยาว
- อุปกรณ์เสริมสำหรับวีลแชร์ (Wheelchair Accessories) : มีอุปกรณ์เสริมมากมายที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการใช้งานวีลแชร์ เช่น ที่วางแก้ว ที่ใส่ของ เข็มขัดนิรภัย และไฟส่องสว่าง
- การขอรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ : ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อวีลแชร์ ควรปรึกษาแพทย์ นักกายภาพบำบัด หรือผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อขอคำแนะนำในการเลือกวีลแชร์ที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายและความต้องการใช้งาน
วีลแชร์ตามลักษณะการใช้งานเฉพาะ
- วีลแชร์สำหรับกีฬา (Sports Wheelchair) : ออกแบบมาเฉพาะสำหรับกีฬา เช่น บาสเก็ตบอล วีลแชร์เรซซิ่ง มีโครงสร้างที่แข็งแรง น้ำหนักเบา คล่องตัวสูง และปรับแต่งได้ตามประเภทกีฬา
- วีลแชร์สำหรับอาบน้ำ (Shower Wheelchair) : ทำจากวัสดุกันน้ำและไม่เป็นสนิม เช่น สแตนเลสหรืออลูมิเนียม มีเบาะนั่งที่ระบายน้ำได้ดี เพื่อความปลอดภัยและสะดวกสบายในการอาบน้ำ
- วีลแชร์สำหรับเดินทาง (Travel Wheelchair) : เน้นความสะดวกในการพกพา มีน้ำหนักเบา พับเก็บได้ง่าย เหมาะสำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์หรือเครื่องบิน
วีลแชร์ตามคุณสมบัติพิเศษ
- วีลแชร์พับได้ (Folding Wheelchair) : สามารถพับเก็บได้ง่าย สะดวกในการพกพาและจัดเก็บ มีทั้งแบบพับตามขวางและพับตามยาว
- วีลแชร์ปรับเอนได้ (Reclining Wheelchair) : สามารถปรับเอนพนักพิงได้หลายระดับ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องการทรงตัว หรือต้องการพักผ่อนในท่านั่งที่สบายขึ้น รวมถึงผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดแผลกดทับ
- วีลแชร์น้ำหนักเบา (Lightweight Wheelchair) : ผลิตจากวัสดุที่มีน้ำหนักเบา เช่น อลูมิเนียมหรือคาร์บอนไฟเบอร์ ทำให้เคลื่อนย้ายและพกพาสะดวก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องเคลื่อนย้ายวีลแชร์บ่อยๆ หรือผู้ดูแลที่ต้องการความสะดวก
สรุป
การเลือกวีลแชร์ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ใช้งาน การทำความเข้าใจประเภทของวีลแชร์และคุณสมบัติของแต่ละประเภท จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกวีลแชร์ที่ตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างเหมาะสมที่สุด ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหากจำเป็น