อันตราย! โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงภัยร้ายอาจเกิดขึ้นกับคุณ
กล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเอ็มจี ก็คือโรคที่มีสาเหตุมาจากระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของเรานั้นทำงานผิดปกติโดยผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้นั้นก็จะมีอาการหนังตาตกยิ้มได้น้อยลงหายใจก็มีความลำบากเป็นอย่างมากมีปัญหาในด้านการพูดการเคี้ยวการกลืนต่างๆรวมไปถึงการทำงานต่างๆของร่างกาย
การทำงานต่างๆของร่างกายผิดปกตินั้นก็จะไม่สามารถที่จะทำงานได้ดีและมีประสิทธิภาพมากนักโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงไม่ว่าจะเป็น เพศไหน อายุเท่าไร วัยไหน ก็สามารถที่จะเกิดขึ้นได้กับทุกคน
ซึ่งในปัจจุบันนั้นในแนวทางการรักษาให้หายขาดนั้นก็ยังไม่สามารถที่จะทำได้ เพราะจะทำได้เพียงแค่บรรเทาอาการให้ดีขึ้น เพราะผู้ป่วยนั้นก็จำเป็นที่จะต้องได้รับการดูแลที่ดีและเหมาะสมและก็จำเป็นมากที่คนรอบๆ ข้างก็จะต้องเอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอด้วย
อาการของโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงตามปกติแล้วนั้นโรคนี้ก็จะไม่พบความเจ็บปวดหรืออะไร แต่ผู้ป่วยนั้นก็อาจจะรู้สึกเจ็บหรือปวดหลังจากที่มีประจำเดือนหรือหลังออกกำลังกาย โดยอาหารที่เราพบได้มากที่สุดนั้นก็คือตามบริเวณ ตา ใบหน้า ลำคอ แขน และ ขา โดยอาการเหล่านี้ก็จะเกิดขึ้นดังนี้
5 อาการโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่พบได้บ่อย
1.ถ้าหากเกิดขึ้นที่รอบดวงตา หนังตาของเราไม่ว่าจะข้างไหนก็ตามก็จะตก หรืออาจจะตกทั้งสองข้างเลยก็ได้ เป็นอาการแรกที่สังเกตได้ รวมถึงพบปัญหาในด้านการมองเห็นต่างๆ เช่น มองเห็นไม่ชัด เห็นเป็นภาพซ้อนต่างๆ เป็นต้น
2.บริเวณใบหน้า หากกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการแสดงออกที่ใบหน้าของเราได้รับผลกระทบนั้นก็จะทำให้การแสดงออกสีหน้าถูกจำกัดลง เช่น อาจจะทำให้เราไม่สามารถที่จะยิ้มได้เยอะๆ หรือบางคนก็ไม่สามารถที่จะควบคุมบริเวณใบหน้าได้ อาจจะทำให้ใบหน้ามีความผิดปกติแปลกไปก็ได้
3.การหายใจ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงนั้นเวลาที่หายใจก็จะมีความลำบากเป็นอย่างมาก เมื่อเวลาที่เรานอนราบนั้น ก็จะทำให้ลำบากไปอีก บางทีถ้าเราไปออกกำลังกาย ก็จะทำให้เราอาจจะหายใจไม่ทันก็ได้
4.การพูด การเคี้ยว และการกลืนต่างๆ เวลาที่เราป่วยเป็นโรคนี้นั้น ทุกอย่างในร่างกายของเราแม้กระทั้งปาก ก็จะไม่มีแรงเหมือนกัน ทำให้เราไม่สามารถทำอะไรได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการกิน การพูด การเคี้ยวอาหาร ก็จะทำให้เรามีความลำบากเป็นอย่างมากด้วย ส่วนการพูดนั้น ก็จะมีเสียงที่เบาเป็นอย่างมาก พูดก็ลำบาก ถือเป็นความทรมานที่น่ากลัวจริงๆ
5.ลำคอ แขน และขาต่างๆ ส่วนใหญ่โรคนี้นั้นจะเกิดขึ้นที่แขนมากกว่าขา มันก็จะส่งผลทำให้การเดินของเราไม่มีประสิทธิภาพ เดินได้ช้าลง ทรงตัวก็ยาก คอก็มีความอ่อนแรง ไม่ว่าจะทำอะไรที่เกี่ยวกับการเดินถือเป็นสิ่งที่ลำบากจริงๆยิ่งถ้าเราเดินขึ้นบันไดอันนี้แทบจะเดินขึ้นไม่ได้ด้วยซ้ำ
สำหรับการเกิดโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงนั้นจริงๆก็เกิดจากการที่เราแพ้ภูมิตัวเอง โดยสารภูมิต้านทานหรือแอนติบอดี้และการส่งสัญญาณประสาทปกติระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายนั้นก็จะมีการผลิตแอนติบอดี้ออกมาเพื่อที่จะได้ทำลายเชื้อโรคต่างๆ หรือสิ่งแปลกปลอมต่างๆที่เข้ามาสู่ในร่างกายของเราแต่ถ้าหากใครที่ป่วยเป็นโรคนี้นั้นแอนติบอดี้นั้นก็จะเข้าไปทำลายการทำงานของสารสื่อประสาทนั่นเอง
การตรวจหรือการวินิจฉัยโรคนั้นทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็จะทำการตรวจเช็คประวัติต่างๆสอบถามอาการเพิ่มเติมรวมถึงตรวจเช็คร่างกายอย่างละเอียดและรอบครอบได้มากที่สุดโดยจะเช็คทั้งเปลือกตา แขน ขา คอ เป็นต้น รวมถึงมีการทดสอบต่างๆ เพื่อให้มันใจว่ากล้ามเนื้อของเรามันอ่อนแรงจริงๆสำหรับการรักษาโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงนั้นจริงๆแล้วก็มีหลากหลายวิธีด้วยกันแต่ในทางการรักษานั้นก็จะเน้นรักษาไปตามอาการที่เกิดขึ้นและเน้นเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้มันมีความแข็งแรง
ทั้งนี้แพทย์ผู้ที่ทำการรักษาเรานั้นก็จะเลือกวิธีการรักษาให้เหมาะสมให้ได้มากที่สุดโดยจะต้องดูด้วยว่าวิธีไหนนั้นมันมีความเหมาะสมโดยจะวิเคราะห์จาก อายุ ความรุนแรงของอาหาร รวมถึงตำแหน่งที่เกิดการกล้ามเนื้ออ่อนแรงเป็นต้น ซึ่งการรักษาส่วนใหญ่นั้นก็จะมี การรับประทานยา การเปลี่ยนถ่ายพลาสม่า การบำบัดด้วยอิมนูโนโกลบูริน การฉีดยา Rituximab เข้าเส้นเลือดและการผ่าตัดต่อมไทมัน
นอกจากนี้ผู้ที่ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงนั้นก็จะต้องมีการพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ควรที่จะเครียดมากจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้กล้ามเนื้อของเรามันอ่อนแรงได้เช่นกัน นอกจากนี้ ควรที่จะต้องดูแลรักษาสุขภาพให้ดี มีความแข็งแรงอยู่ตลอดเวลา เวลาที่มีความผิดปกติอะไรเกี่ยวกับร่างกายนั้นก็ควรที่จะต้องรีบไปพบแพทย์อย่างเร่งด่วนเพื่อที่จะได้ทำการรักษากันอย่างถูกต้องและถูกวิธี
สรุป
สำหรับวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงนั้น โดยในปัจจุบันนี้นั้นก็ยังไม่สามารถที่จะป้องกันได้แต่เราก็สามารถที่จะหลีกเลี่ยงและดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากโรคนี้ได้เช่นกันโดยเราก็ควรที่จะมีสุขอนามัยที่ดีหากเราเกิดอาการติดเชื้อหรือมีความป่วยอะไรก็ตามแต่ก็ควรที่จะต้องรีบทำการรักษาอย่างถูกต้องและถูกวิธีให้เร็วที่สุดไม่ควรที่จะออกกำลังกายที่หนักจนเกินไปและที่สำคัญเราก็จะต้องสามารถควบคุมความเครียดให้ได้ และไม่ควรทำให้ตัวเองรู้สึกร้อนหรือหนาวมากจนเกินไป