การลดน้ำหนักในผู้สูงอายุ

การลดน้ำหนักในผู้สูงอายุ

การที่เรามีน้ำหนักตัวมากจนเกินไปนั้นก็อาจจะทำให้เราเกิดปัญหาทางสุขภาพที่รุนแรงก็เป็นไปได้ ในผู้สูงอายุที่มีน้ำหนักตัวมากๆ นั้น ก็จะมีการลดน้ำหนักได้ยากมากยิ่งขึ้น

การลดน้ำหนักในผู้สูงอายุ อีกหนึ่งปัญหาที่ต้องแก้ให้ถูกวิธี

       เนื่องจากกระบวนการเผาผลาญต่างๆ  มันก็ทำได้ช้าลง แถมจะมีแนวโน้มในการเคลื่อนไหวที่น้อยลงไปอีกด้วย ทำให้ผู้สูงอายุนั้นก็มักจะอยู่กับที่เป็นซะส่วนใหญ่ แต่อย่างไรก็ตามนั้นเราก็จะต้องยังเผชิญกับความท้าทายในการรับประทานอาหารที่ให้สารอาหารที่เหมาะสมอีกด้วย จากการศึกษานั้นเราก็พบว่า ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เมื่อทานอาหารชนิดเดียวกับเด็กรุ่น 20 ปี อัตราในการเผาผลาญพลังงานรวมถึงการออกกำลังกายนั้นก็จะมีความแตกต่างกันออกไป เพราะผู้ที่มีอายุน้อยกว่านั้นก็จะมีระบบการเผาผลาญที่ดีกว่า

ผู้สูงอายุนั้น ก็จะต้องทำความเข้าใจกับอาหารให้ดี เพราะในแต่ละอย่างที่เรากินเข้าไปนั้นก็จะต้องดูด้วยว่ามันมีไขมัน แป้ง มากน้อยขนาดไหน ถ้าเรากินเยอะมากจนเกินไป ก็อาจจะทำให้เราป่วยเป็นโรคอ้วน จนนำไปสู่การเกิดโรคต่างๆ อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ความดัน โรคหัวใจ เบาหวาน เป็นต้น

      สำหรับผู้สูงอายุนั้น เมื่อมีอายุมากขึ้นเราก็ควรที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนในเรื่องอาหารการกินสักเล็กน้อย ควรที่จะต้องเลือกกินอาหารที่มันสามารถย่อยได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ควรที่จะกินแค่เพียงพอ ไม่ควรกินเยอะจนกินไป ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เช่น “ของทอด ของมัน ของหวาน น้ำอัดลม เพราะสิ่งต่างๆ” เหล่านี้นั้นมันก็จะเป็นตัวการที่สำคัญเป็นอย่างมากที่จะทำให้ผู้สูงอายุมีน้ำหนักตัวที่เยอะมากยิ่งขึ้น โดยในการลดน้ำหนักที่ได้ผลที่ดีที่สุดสำหรับผู้สูงอายุนั้นก็น่าจะเป็นการควบคุมอาหารในแต่ละวันให้ได้รับในปริมาณที่เหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งผู้สูงอายุนั้นก็สามารถที่จะทำได้โดยดังต่อไปนี้

5 สิ่งควรปฏิบัติสำหรับการลดน้ำหนักผู้สูงอายุ

1.ก่อนรับประทานอาหารทุกมื้อ ก็ควรที่จะเลือกดื่มน้ำเปล่าสัก 1-2 แก้ว เพื่อที่จะช่วยทำให้การรับประทานอาหารนั้นสามารถที่จะกินได้น้อยและอิ่มได้เร็วมากยิ่งขึ้น หรือ ถ้าเราไม่ได้เลือกดื่มน้ำก่อนรับประทานอาหาร ก็ควรที่จะต้องเน้นการกินอาหารที่มีพลังงานต่ำ ไม่ควรที่จะจัดหนักของที่มีไขมันเยอะ

2.ควรที่จะต้องรับประทานอาหารให้ตรงต่อเวลา ฝึกฝนในการกินอาหารให้ครบทั้งสามมื้อ ในระหว่างมื้ออาหารนั้นก็ควรที่จะต้องเน้นผักและผลไม้ให้เยอะๆ ไม่ควรที่จะกินมื้อดึกจนเกินไป และห้ามอดอาหารในมื้อเช้าในมื้อเช้านั้นก็ถือเป็นมื้อที่สำคัญเป็นอย่างมากที่จะทำให้การใช้ชีวิตของผู้สูงอายุเป็นไปได้ด้วยดี และในระหว่างการรับประทานอาหารนั้นก็ควรที่จะรับประทานอาหารอย่างช้าๆ ควรที่จะเคี้ยวให้ละเอียด

3.ไม่ควรที่จะต้องมานั่งคิดว่าอาหารที่เรารับประทานไม่หมดนั้นมันน่าเสียดาย เพราะการที่เรากินอาหารที่มันเยอะจนเกินความจำเป็นนั้นก็อาจจะทำให้เราอ้วนได้ ฉะนั้นสำหรับผู้สูงอายุแล้วก็ควรที่จะต้องเลือกรับประทานอาหารให้พอดีก็น่าจะเพียงพอแล้ว ซื้อมาเยอะจนเกินไป ก็อาจจะทำให้เหลือทิ้งและเปลืองเงินอีกด้วย

4.สำหรับผู้สูงอายุที่หิวบ่อยหรือกินเก่ง ก็อาจจะต้องเลือกรับประทานอาหารที่มีพลังงานน้อย ควรที่จะต้องปรับเปลี่ยนอาหารให้เหมาะสมกับอายุให้มากที่สุด จากที่เคยกินข้าวขาว ก็อาจจะปรับเปลี่ยนมาเลือกรับประทานข้าวกล้องแทน กินแล้วยังทำให้เรารู้สึกอิ่มนานได้อีกด้วย หรือ บางมื้อเราอาจจะชอบกินไก่ทอด ก็อาจจะลองเปลี่ยนเป็นไก่ต้ม ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอยู่เหมือนกัน

5.ในแต่ละมื้อนั้นก็ควรที่จะต้องรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ ควรที่จะต้องเน้นผักและผลไม้ให้มากๆ ไม่ควรที่จะเลือกกินแต่เนื้อสัตว์ติดมัน ขนม นมเนย บ่อยจนเกินไป เพราะนอกจากจะไม่มีประโยชน์แล้วนั้นก็ยังทำให้เราอ้วนขึ้นอีกด้วย เพราะผู้สูงอายุส่วนใหญ่ก็มักจะชื่นชอบของหวานเป็นอย่างมาก ฉะนั้น ในเรื่องนี้ก็ควรที่จะงดและหลีกเลี่ยงให้ได้มากที่สุด

สรุป

      อย่างไรก็ตามนั้นในผู้สูงอายุนั้นในส่วนของเรื่องอาหารการกินต่างๆ ก็ควรที่จะต้องกินให้ครบทั้ง 5 หมู่ ควรที่จะต้องเลือกกินอาหารให้มันมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ควรที่จะเน้นรับประทานอาหารพวก ข้าวกล้อง ผัก ผลไม้ ให้มากๆ เพราะมันจะช่วยทำให้ระบบภายในร่างกายของเราสามารถที่จะทำงานได้อย่างปกติและขับถ่ายได้ดี

สำหรับอาหารที่ไม่ควรกินนั้นก็ควรที่จะงดไปเลยก็ได้ เช่น “ข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ ของมันๆ หมูสามชั้น ของหวานทุกชนิด รวมถึงน้ำอัดลมและน้ำหวานต่างๆ” ก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงไปเลย เพราะอาหารดังกล่าวนอกจากจะทำให้อ้วนแล้วก็ยังเป็นสิ่งที่ทำลายสุขภาพของผู้สูงอายุอีกด้วย

     สำหรับการออกกำลังกายของผู้สูงอายุนั้นก็เป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะถ้าหากผู้สูงอายุไม่มีการออกกำลังกายเลย ก็อาจจะทำให้ร่างกายของผู้สูงอายุไม่มีความแข็งแรงและไม่กระชับกระเฉ่ง เหมือนที่ควรจะเป็น ในการออกกำลังกายแต่ละครั้งนั้นก็ควรที่จะต้องใช้เวลาอย่างต่ำ 30 นาทีด้วยกัน อาจจะเน้นไปที่การเดินเร็ว หรือ ขยับแขนขยับขา ให้รู้สึกว่าร่างกายได้มีการเผาผลาญพลังงานออกไปบ้าง เพียงเท่านี้ก็จะทำให้การลดน้ำหนักของผู้สูงอายุ ก็จะเป็นไปได้ด้วยดี แถมยังมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย