การป่วยเป็นโรคเบาหวานในขณะตั้งครรภ์

การป่วยเป็นโรคเบาหวานในขณะตั้งครรภ์

การป่วยเป็นโรคเบาหวานในขณะตั้งครรภ์

     การที่เกิดเป็นโรคเบาหวานในขณะที่เรากำลังตั้งครรภ์นั้นก็สามารถที่จะเกิดได้แทบทุกคนเลยถึงแม้ว่าจะไม่มีประวัติในทางกรรมพันธุ์ก็ตามแต่ ซึ่งการที่เป็นเบาหวานในขณะที่เราตั้งครรภ์ก็ส่งผลทำให้ทารกที่กำลังจะคลอดออกมานั้นก็มีสภาพที่ไม่แข็งแรงรกไม่สมบูรณ์ หรือทารกนั้นก็อาจจะได้รับผลกระทบจากภาวะที่น้ำตาลในเลือดสูงได้เช่นกัน

     ในบางครั้งนั้นเด็กที่ออกมาก็อาจจะมีตัวโตที่มากกว่าปกติ ทำให้ทำคลอดลำบากมาก ซึ่งการที่จะคลอดออกมานั้นก็ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ เกิดขึ้นอย่างมาก และอื่นๆ อีกมากมาย แต่อาการเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้นถ้าหากคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่นั้นมีการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ที่ปกติ โดยภาวะของโรคเบาหวานที่เกิดกับคนที่ตั้งท้องนั้นก็จะสามารถที่จะหายไปได้เองเลย แต่ก็ไม่อยากให้ต้องกังวลอะไรมากไป เพราะการที่เรามีความเครียดมากๆนั้นมันก็มีผลกระทบที่ไม่ดีต่อเด็กที่อยู่ในท้องได้เหมือนกัน

    ดังนั้นถ้าหากว่าเรารู้ตัวว่ากำลังจะมีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงนั้นก็ควรที่จะทำการปรึกษาแพทย์อย่างเร่งด่วนเพื่อที่จะได้ทำการรักษากันอย่างถูกต้องและถูกวิธีกันต่อไป แต่ที่สำคัญนั้นคุณแม่ที่กำลังตั้งท้องอยู่นั้นก็จะต้องมีการควบคุมอาหาร และเลือกกินอาหารที่ดีและมีประโยชน์ต่อตนเองและลูกที่อยู่ในท้องให้ได้มากที่สุด ควรที่จะเลือกกินผักและผลไม้ต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ เลือกกินแต่ของดีๆ ไม่ควรที่จะบริโภคน้ำตาลมากจนเกินไปเพราะอาจจะทำให้ร่างกายของเรานั้นมีระดับน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นได้อีกด้วย

ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัดต่างๆ

     ไม่ว่าจะเป็น อาหารประเภทท้อง ไก่ทอด ลูกชิ้นทอด และอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ควรที่จะบริโภคขนมหวานที่มากจนเกินความจำเป็น เพราะในขนมหวานนั้นก็ถือเป็นแหล่งที่มีน้ำตาลที่เยอะมากจริงๆ การเลือกรับประทานอาหารให้ครบทุกหมู่และหลากหลายในปริมาณที่เหมาะสมนั้นและมีความเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายนั้น และที่สำคัญคุณแม่นั้นก็จะต้องพักผ่อนกันอย่างให้เพียงพอด้วย เพราะว่ามันจะส่งผลที่ดีต่อตัวเองและลูกที่อยู่ในท้องอีกด้วย ในภาวะการตั้งครรภ์ที่จะเกิดขึ้นและพบว่ามีระดับน้ำตาลในเลือดก็มีอยู่น้อยเป็นอย่างมากเหมือนกัน

สตรีที่ตั้งท้องนั้นก็มีโอกาสที่จะป่วยเป็นโรคเบาหวานในขณะที่เราต้องท้องได้เหมือนกัน การที่เป็นเบาหวานในขณะตั้งครรภ์นั้นเราก็จะต้องมีการตรวจเช็คร่างกายของเราให้รอบคอบกันด้วย เพราะถ้าเราป่วยแล้วนั้นมันก็อาจจะได้รับผลกระทบที่ไม่ดีต่อร่างกายของเราได้เหมือนกัน ซึ่งผลเสียที่ป่วยเป็นเบาหวานในขณะตั้งท้องจริงๆ แล้วมันก็จะส่งผลเสียต่อแม่ได้เยอะมากจริงๆ เพราะอาจจะส่งผลทำให้ครรภ์ของเราเป็นพิษได้ แถมยังทำให้มีโอกาสในการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะได้ง่ายอีกด้วย ซึ่งผลเสียนั้นก็ย่อมจะส่งไปสู่ลูกน้อยของเราได้

นอกจากนี้นั้นเด็กที่อยู่ในท้องถ้าหากคลอดออกมานั้นก็อาจจะทำให้เกิดความพิการตั้งแต่กำเนินได้สูงมาก และอื่นๆ อีกมากมาย ถ้าหากว่าเรารู้ตัวว่าเป็นโรคเบาหวานในขณะที่กำลังตั้งท้องอยู่นั้นก็ควรที่จะรีบพบแพทย์โดยด่วนเพื่อที่จะได้ทำการรักษากันอย่างถูกต้อง

ควรหลีกเลี่ยงอาหารรสจัดต่างๆ

การป่วยเป็นโรคเบาหวานในขณะที่กำลังตั้งครรภ์

        ถือเป็นอีกหนึ่งภาวะที่หญิงตั้งครรภ์นั้นมีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเป็นอย่างมาก เพราะว่าร่างกายนั้นก็ไม่สามารถที่จะผลิตอินซูลินได้อย่างเพียงพอ โดยการป่วยเป็นโรคเบาหวานนั้นก็สามารถที่จะเกิดขึ้นได้แทบทุกระยะของการตั้งครรภ์ด้วย แต่โดยทั่วไปนั้นก็มักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาหลังของการตั้งครรภ์ มันทำให้ส่งผลต่อสุขภาพของแม่และเด็กทารกอีกด้วย ดีไม่ดีนั้นความอันตรายต่างๆ ก็อาจจะแทรกเข้ามาทำให้ลูกน้อยของเราเกิดอาการพิการหรืออาจจะเสียชีวิตได้ แต่อย่างไรก็ตามนั้นผู้ที่กำลังตั้งท้องหรือตั้งครรภ์อยู่นั้นก็ควรที่จะต้องเลือกกินแต่อาหารที่ดีและมีประโยชน์ด้วย

การออกกำลังกายก็สามารถที่จะทำได้เหมือนกันแต่ก็จะต้องอยู่ในการควบคุมดูแลของผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนั้นนั้นผู้ที่ตั้งท้องแล้วเกิดเป็นโรคเบาหวานก็ควรที่จะต้องพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ มีการตรวจเช็คสภาพร่างกายกันอย่างต่อเนื่อง การที่เราพบแพทย์กันอย่างสม่ำเสมอนั้นก็เพราะว่าแพทย์ที่ทำการรักษาเรานั้นหรือผู้ที่ทำคลอดเราก็จะได้ดูแลกันอย่างใกล้ชิดเป็นอย่างมาก แพทย์มีหน้าที่ในการช่วยเราควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ที่ปกติให้ได้ หลายๆ คนนั้นที่ตั้งท้องก็ยังอาจจะไม่ค่อยรู้สักเท่าไรว่าเรานั้นจะป่วยเป็นโรคเบาหวานในระหว่างตั้งท้องได้หรือไม่

รูปภาพจากpinterest

โดยอาการของเบาหวานในลักษณะแบบนี้นั้น บางรายก็อาจจะไม่มีการแสดงอาการออกมาสักเท่าไร แต่แพทย์ที่ทำการตรวจเรานั้นก็จะทราบระดับน้ำตาลในเลือดของเรา บางคนนั้นเมื่อมีอาการมากๆ ก็อาจจะกระหายน้ำ ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ ปากแห้ง และมีความรู้สึกว่าเหนื่อย ถ้าเราร่างกายของเรามีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงจริงๆ นั้นก็ควรที่จะต้องปรึกษาแพทย์กันอย่างเร่งด่วนด้วยไม่ควรที่จะซื้อยาหรือปล่อยไว้แบบเดิมเพราะมันเป็นสิ่งที่มีความอันตรายเป็นอย่างมาก หลักๆ แล้วนั้นสาเหตุของการป่วยเป็นโรคเบาหวานในระหว่างการตั้งครรภ์นั้น ก็มักจะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในระหว่างที่เรากำลังตั้งครรภ์กันอยู่

ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์บางรายนั้นก็อาจจะเกิดสภาวะร่างกายต่อต้านอินซูลินก็มีเหมือนกัน ซึ่งแน่นอนถือเป็นฮอร์โมนที่สำคัญเป็นอย่างมากที่จะผลิตขึ้นจากเซลล์ในตับอ่อนและทำให้ร่างกายของเรานั้นสามารถที่จะเผาผลาญกลูโคสเป็นพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ถ้าหากร่างกายของผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์นั้นมีระดับอินซูลินที่ต่ำเป็นอย่างมากหรือร่างกายดื้อต่ออินซูลินนั้นก็อาจจะทำให้น้ำตาลในเลือดมีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นสูงได้ อย่างไรก็ตามนั้นถ้าหากร่างกายระหว่างที่เราตั้งครรภ์เกิดมีอาการผิดปกติต่างๆ นั้นก็ควรที่จะรีบไปพบแพทย์อย่างเร่งด่วนด้วยเพื่อที่จะได้ทำการรักษากันอย่างถูกต้องและถูกวิธี นอจากนี้นั้นปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้การตั้งท้องของเราเกิดเป็นโรคเบาหวานนั้นก็จะมีได้ดังต่อไปนี้

ปัจจัยที่ทำให้การตั้งท้องเกิดโรคเบาหวาน

1.การที่ร่างกายของเรามีน้ำหนักตัวที่มากจนเกินไป ซึ่งผู้ที่ตั้งท้องแล้วมีน้ำหนักตัวที่เยอะมากนั้น ก็อาจจะส่งผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นสูงได้เหมือนกัน

2.เคยคลอดทารกที่มีน้ำหนักตัวมากมาแล้ว ซึ่งถ้าหากเคยคลอดเด็กที่มีน้ำหนักตัวมากกว่า 4 กิโลกรัมมาแล้วนั้นก็ย่อมจะทำให้เกิดความเสี่ยงในการป่วยเป็นโรคเบาหวานได้เหมือนกัน

3.ชาติพันธ์ ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่พบได้มากโดยจะพบได้ในชาว เอเชีย ลาตินอเมริกัน แอฟริกัน และอเมริกัน

4.ปัญหาสุขภาพทางด้านอื่นๆ ซึ่งถ้าหากคนในครอบครัวของเรามีประวัติการป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 หรือเคยป่วยเป็นโรคเบาหวานมานั้นก็ย่อมจะทำให้เรานั้นมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวานได้ สำหรับการตรวจโรคของผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานในขณะตั้งครรภ์นั้น แพทย์ผู้ที่ทำการตรวจพบภาวะเบาหวานชนิดนี้นั้นก็จะทำการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดก่อน ซึ่งในช่วงแรกๆ นั้นแพทย์ผู้ทำการรักษานั้นก็จะทำการประเมินความเสี่ยงของการเกิดโรคเบาหวานกันก่อน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็ จะมีอยู่ด้วยกัน 2 วิธีด้วยกันดังต่อไปนี้

4.1.การตรวจคัดกรอง แพทย์ผู้ที่ทำการรักษาโรคของเรานั้นก็จะทำการตรวจสอบประวัติต่างๆ เพื่อนำมาวิเคราะห์รวมถึงพฤติกรรมที่ใช้ในแต่ละวันด้วยหรือมีค่าดัชนีมวลกายที่มากกว่า 30 หรือไม่ เพื่อที่จะได้คัดกรองกันอย่างถูกต้อง และมีความเสี่ยงมากน้อยเพียงใด

4.2.การทดสอบความทนทานต่อน้ำตาล ถือเป็นอีกนหนึ่งวิธีที่ทางแพทย์นั้น ก็จะพบว่าผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานนั้นก็จะใช้น้ำตาล ซึ่งแพทย์นั้นก็จะทำการตรวจเช็คระดับน้ำตาลในเลือดของเราเสียก่อนจากนั้นก็ให้เราดื่มสารละลายกลูโคสแล้วตรวจเลือดอีกครั้งซ้ำอีก 2-3 ชั่วโมงด้วยกัน ว่าในร่างกายของเรานั้นมีระดับน้ำตาลในเลือดที่อยู่ในเกณฑ์ปกติหรือไม่

สำหรับผู้หญิงที่มีความเสี่ยงไม่สูงมาก ทางแพทย์ผู้ที่ทำการรักษานั้นก็จะทำการนัดตรวจเช็คอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ แต่ถึงแม้ว่าเราจะไม่ป่วยเป็นโรคเบาหวานนั้นก็ควรที่จะต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของเราให้ดีด้วยเพื่อที่การตั้งครรภ์ของเรานั้นจะได้ไม่มีความเสี่ยงเข้ามาแทรกเพิ่มเติม

นั้นแนวทางการรักษาภาวะเบาหวานในระหว่างที่เราตั้งท้อง

1.การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สำคัญเป็นอย่างมากเลยเพราะในผู้ป่วยนั้นไม่ว่าจะตั้งท้องหรือไม่ก็ตามก็จะต้องมีการตรวจเช็คระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอด้วย ว่าระดับน้ำตาลในเลือดของเรานั้นอยู่ในเกณฑ์ที่ปกติหรือไม่ ถ้าหากพบว่ามีความผิดปกติอยู่นั้นเราก็จะต้องเร่งทำการรักษาอย่างโดยด่วนถ้าหากเราปล่อยเอาไว้ก็ย่อมจะทำลายเด็กที่อยู่ในท้องได้

2.การเลือกรับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้ป่วยนั้นก็จะต้องมีความจำเป็นในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารด้วย ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการเลือกกินผักต่างๆ ผลไม้ ถั่วและอื่นๆ อีกมากมายก็ควรที่จะกินแต่สิ่งดีๆ ที่มีประโยชน์ไม่ควรที่จะบริโภคแป้งที่เยอะมากจนเกินไปเพราะถ้าเรากินเยอะแล้วใช้ไม่หมดนั้นมันก็จะเปลี่ยนสถานะเป็นน้ำตาลทันที

3.การออกกำลังกาย ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากเลยเพราะการที่เราออกกำลังกายนั้นมันสามรรถที่จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของเราสามารถที่จะลดลงได้เยอะเป็นอย่างมาก การที่เราออกกำลังกายในระหว่างที่กำลังตั้งท้องอยู่นั้นก็จะสามารถที่จะช่วยในการบรรเทาในการตั้งครรภ์ได้เป็นอย่างดี แต่ในการออกกำลังกายนั้นก็ควรที่จะต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์ก่อนทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพของเรา

สรุป:

       อย่างไรก็ตามนั้นการรักษาเบาหวานในขณะที่ตั้งท้องหรือตั้งครรภ์อยู่นั้น ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ก็มีความจำเป็นที่จะต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ได้ด้วย เพื่อที่สุขภาพร่างกายของเรานั้นจะได้มีความแข็งแรงรวมถึงเด็กที่อยู่ในท้องด้วยถ้าหากสภาพร่างกายของเราไม่มีความแข็งแรงนั้นก็ย่อมที่จะส่งผลเสียต่อลูกน้อยของเราได้